-- * Story of My Life * --
PouNdPoN (●>ω<●)

Sunday, June 14, 2009

No Country for Old Men(2007) from climax to nothing

(บทความนี้เป็นความคิดของผู้เขียนเท่านั้น)

วันนี้ดูเรื่อง No Country for Old Men ใน truevision
ก็เปลี่ยนช่องไปมาอยู่ตั้งนาน กว่าจะเลือกดูเรื่องนี้ จริงๆไม่ใช่เพราะอะไร
แต่เพราะว่าไม่มีหนังอะไรให้ดู

ก็เคยได้ยินชื่อหนังเรื่องนี้มาบ้าง
จำได้ว่าเข้าชิง Oscar ด้วย
ก็น่าจะดีนะหนังเรื่องนี้ ก็ตัดสินใจดูเรื่อง No Country for Old Men



หนังเรื่องนี้หลักๆเกี่ยวกับผู้ชาย 3 คน ที่เหมือนเป็นแมวไล่จับหนู
คือ

Ed Tom Bell (Tommy Lee Jones) เป็นนายอำเภอ



Anton Chigurh (Javier Bardem) เป็นนักฆ่าที่มีอาวุธเป็น ปืนรูปร่างประหลาด (captive bolt pistol)

Llewelyn Moss (Josh Brolin) ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ไปท้าสู้กับนักฆ่า

มีเนื้อเรื่องอยู่ว่า
Llewelyn บังเอิญไปเจอกระเป๋าที่มีเงิน 2 ล้าน
หลังการต่อสู้ของพวกค้ายาที่สาดกระสุนใส่กันและไม่มีใครรอดสักคน
เขาก็เอากระเป๋านั้นกลับบ้านและหลังจากนั้นก็ออกเดินทางไปยังโรงแรมหนึ่ง

Ed Tom Bell กำลังตามจับ Anton
เนื่องจากฆ่าเจ้าหน้าที่และฆ่าคนอีกจำนวนมาก

Anton ถูกจ้างมาเพื่อเอากระเป๋าเงินดังกล่าว ก็ได้ตาม Llewelyn ไปที่โรงแรม
โดยตามร่องรอยตัวส่งสัญญาณที่อยู่ในกระเป๋าเงิน

ฉากนี้ก็มีการแสดงความฉลาดของแต่ละคน ต้องไปลองดู

แต่ Llewelyn ก็หนีพ้นมาได้พร้อมกระเป๋าเงิน
ต่อมา Llewelyn ก็ได้ไปพักที่อีกโรงแรมหนึ่ง และก็ได้ค้นพบว่ามีตัวส่งสัญญาณอยู่ในกระเป๋า
แต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะว่า Anton ได้มาถึงที่โรงแรมนั้นแล้ว
Llewelyn ก็รอที่จะต่อกรกับ Anton แต่ก็ไม่คาดคิดว่า Anton จะยิงทะลุกลอนประตูเข้ามา
Llewelyn ยิงตอบโต้ไป เกิดการต่อสู้กันจนได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย

Llewelyn ก็หนีไปที่ Mexico และนำกระเป๋าไปซ่อนที่ชายแดน America-Mexico
หลังจากพักฟื้นที่โรงพยาบาลใน Mexico เขาก็ได้นัดแนะให้ภรรยาของเขามาหาที่ El Paso
แต่เมื่อ Ed และภรรยามาถึงที่นั่น ก็พบว่า Llewelyn ตายแล้ว
ก็รู้ได้ทันทีเลยว่า Anton ได้ฆ่าเขา เนื่องจากที่กลอนประตูได้ถูกยิง

ต่อมาภรรยาของเขาก็ได้เจอ Anton ที่บ้านของเธอ และ Anton ต้องการที่จะฆ่าเธอ
เนื่องจากเขาได้ยื่นข้อเสนอให้แก่ Llewelyn ก่อนที่เขาจะตายว่า
ให้เอากระเป๋าเงินมาให้เขาแล้วเขาจะไว้ชีวิตภรรยา
แต่ Llewelyn ก็ไม่ได้ทำตาม

ตอนนี้เขาจึงจะมาฆ่าภรรยาของ Llewelyn
แต่เธอก็บอกกับเขาว่า "You don't have to do this"
ซึ่งเป็นประโยคเด่นของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นประโยคที่เหยื่อทุกคนของ Anton พูด
เขาก็ให้เธอทายหัวก้อยจากการโยนเหรียญ แต่เธอก็ไม่สนใจที่จะทาย
(ถ้าทายถูกจะไว้ชีวิต)
โดยเธอได้พูดไว้ว่า "It doesn't depend on the coin ,it's up to you"
เรื่องไม่ได้ฉายให้ดูว่า Anton ฆ่าภรรยาของ Llewelyn หรือเปล่า
หลังจากที่ Anton ออกจากบ้านภรรยาของ Llewelyn แล้ว เขาก็ขับรถไปตามทาง
และได้ถูกรถอีกคันหนึ่งขับมาชน จนเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
แต่ก็หนีไปก่อนที่ตำรวจจะมาถึงสถานที่เกิดเหตุ

หนังก็ตัดไปที่ Ed ที่พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับความฝันของตนเอง
โดยบอกว่า ฝันเกี่ยวกับคุณพ่อของเขา
ฝันแรก เขาทำเงินที่พ่อเขาให้ไว้หาย
และในฝันที่ 2 พ่อของเขาขี่ม้า โดยถือคบไฟ และขี่ม้าผ่าน Ed โดยก้มหัวลงและ
"going on ahead, and fixin' to make a fire"
และเมื่อ Ed ไปถึงที่นั่น พ่อของเขาก็กำลังรอเขาอยู่
แล้วเขาก็ตื่นขึ้นมา

เรื่องก็จบลงตรงนี้ อย่างนี้
หนังอาจจะเป็นปรัชญาก็ได้มั้ง ไม่รู้
เรารู้แต่ว่า พอหนังจบปุ๊บก็พูดออกมาเลยทันทีว่า
"จบแบบนี้เนี่ยนะ ดูมาตั้งนาน อย่างงี้ไม่น่าดูเลย"
เรื่องกำลังถึงจุด climax และก็จบแบบไม่มีอะไร จบดื้อๆทื่อๆ ซะงั้น

แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนกลางๆเรื่องก็สนุกอยู่เหมือนกัน
เพราะต้องลุ้นว่า Llewelyn จะรอดเปล่า
แล้ว Anton ก็ฆ่าแหลกจริงๆ ดูแล้วก็ไม่ค่อยอยากจะดูเวลายิงซะเท่าไหร่ กลัว

ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไงก็ลองไปดูกันละกัน เรื่อง No Country for Old Men
เดือนนี้ truevision เอามาฉายมั้ง


เรื่องนี้แต่ละคนคิดยังไงก็ไม่รู้
แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Oscar 8 สาขา
และกวาดรางวัล Oscar ไปได้ถึง 4 รางวัล
นอกจากนี้ก็มีรางวัลอื่นๆอีกมากมาย เช่น British Academy Film Awards (BAFTA)

2 comments:

  1. โห... น้องจอนคับ เล่าจนจบยังงี้ยังจะบอกให้ไปดูเองอีกนะ 555+
    จริงๆ ก็อยากดูนะเรื่องนี้แต่เผอิญขวัญอ่อน กลัวรับไม่ได้ แต่เราอ่านเรื่องแล้ว งงอะ ยอดเยี่ยมยังงายไม่เข้าจาย ตีความไม่ออก งง
    แนะนำให้จอนดู Burn After Reading โดยผู้กำกับและเขียนบทเดียวกัน เรื่องนี้ดูรู้เรื่อง แต่ดูจบแล้วจะประมาณว่า อารายของเมิงเนี่ยยย แต่เราชอบมาก ตลกร้ายสุดๆ

    ReplyDelete
  2. เอ้ยจิงดิ บีม..
    เราดู Burn after reading แล้ว เราว่างงพอๆกะเรื่องนี้แหละ
    มันฮาเป็นพักๆอะ
    ตอนจบก้อเหมือนกัน อยู่ดีๆก้อจบ โคดงง..
    มิน่าคนเขียนคนเดียวกัน เหอๆ
    แต่จอนลองไปดูก้อดีนะ อารมนี้เลย ฮ่าๆ

    ReplyDelete